ข่าวเด็ดมหาสารคาม

ข่าวเด็ดมหาสารคาม ปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 143 แห่ง เป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับล่าง ประกอบด้วย เทศบาล 47 แห่ง เป็นเทศบาลเมือง 1 แห่ง คือเทศบาลเมืองมหาสารคาม และเทศบาลตำบล 18 แห่ง ที่เหลือเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 123 แห่ง

LightBlog
LightBlog

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ดับ1 เจ็บ1 ‘อดีตทหารพรานใต้’ บุกยิง ตร.หนุ่ม หลังน้องชายวุ่นเคลียร์ใจปมชู้สาว แม่ลั่น ไม่อโหสิกรรม

 

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 22.20 น. วันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมหวัง ปรางประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 1 บ้านปอพาน ต.ปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม จากนั้นได้แจ้งหน่วยกู้ภัยจุดนาเชือก หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลนาเชือก ออกรับผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บภายหลังคือ ส.ต.อ.อานนท์ เงินงาม อายุ 31 ปี ผบ.หมู่ (ป) สภ.ปอพาน และ ส.ต.อ.พิชิต โบราณประสิทธิ์ อายุ 31 ปี ผบ.หมู่ (ป) สภ.ปอพาน โดย ส.ต.อ.พิชิต เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนมือปืนได้เข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายยงค์วิวัฒน์ อนุศาสน์โกศล หรือ บอย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 1 บ้านปอพาน ตำบลปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
โดยพฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.อ.พิชิตได้ไปหา น.ส.แตน ที่บ้านหลังเกิดเหตุ แต่พบว่า นายเบียร์ ซึ่งเป็นน้องชายของมือปืน ขับขี่รถจักรยายนต์มาส่งนางสาวแตน ทำให้ ส.ต.อ.พิชิต ไม่พอใจ จึงได้โต้เถียงกันแล้วแยกย้าย โดยนายเบียร์ได้กลับบ้านไป จากนั้น ส.ต.อ.พิชิต ได้โทรศัพท์ไปหา ส.ต.อ.อานนท์ (ผู้บาดเจ็บ) ให้มาหาที่บ้านที่เกิดเหตุ
ต่อมา นายเบียร์ได้ย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อพูดคุยตกลงกันกับ ส.ต.อ.พิชิต แต่ตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่นายยงค์วิวัฒน์ อนุศาสน์โกศล หรือ บอย อายุ 34 ปี เดินทางมายังที่เกิดเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยิง ส.ต.อ.พิชิต และ ส.ต.อ.อานนท์ จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อนที่มือปืนจะเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
จากการสอบถามนางจันทร์ศรี ปะสาวะภา เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ได้ยินเสียงปืนดังมาจากข้างหลังบ้าน ตอนแรก 3 นัด จึงวิ่งออกมาดู แต่ระหว่างวิ่งมาดูก็ต้องหยุดอยู่ตรงกำแพง เพราะได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องกันอีกหลายนัด เมื่อสิ้นเสียงปืน เห็นมือปืนวิ่งสวนออกไปทางเส้นกลางหมู่บ้าน ส่วนตำรวจคนที่บาดเจ็บไม่เห็น คาดว่าจะวิ่งหลบหนีไปอีกทาง ส่วนตำรวจคนที่เสียชีวิต คาดว่าวิ่งหนีลงไปในทุ่งนาและนอนนิ่งอยู่กับที่ ทราบว่าต่อมาเสียชีวิต ซึ่งผู้ตายได้แวะเวียนมาที่บ้านหลังนี้อยู่บ่อยครั้ง เป็นตำรวจที่นิสัยดี ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่าจะมีปากเสียงกับใคร ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน
ด้าน นางสงวน ปะสาวะภา มารดาของ น.ส.แตน เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนกำลังพาหลานนอน ปกติตนจะไม่ค่อยได้ยินเสียง เพราะหูไม่ดีต้องใส่เครื่องช่วยฟัง ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จนได้ยินเสียคล้ายประทัด ดังติดต่อกันหลายนัด จึงเดินออกมาดู พร้อมตะโกนว่าใครมายิงอะไรอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวหลานจะตื่น ก่อนจะพบว่า ส.ต.อ.พิชิตถูกยิงและวิ่งหนีตายลงทุ่งนา ส่วนเรื่องคบหากันกับลูกสาวนั้น คาดว่าทั้งคู่กำลังจะเริ่มคบหากัน แต่ก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ว่าเหตุใดจึงมีเรื่องกันจนถึงขั้นยิงกันจนเสียชีวิต ด้าน เพื่อนตำรวจ สภ.ปอพาน เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนที่นิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือและดูแลเพื่อนร่วมงานด้วยดีมาตลอด ไม่นึกว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้น ส่วนเพื่อนตำรวจอีกรายที่บาดเจ็บเพราะถูกยิงที่แขนขวาในระหว่างที่อยู่กับผู้ตาย หลังเกิดเหตุได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนาเชือกเพื่อทำการผ่าตัดรักษาบาดแผล ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ นางบัวไข อนุศาสน์โกศล อายุ 82 ปี ย่าของมือปืน เล่าว่า นายบอย อดีตเคยเป็นทหารพรานอยู่ภาคใต้ ส่วนน้องชายชื่อเบียร์ ทำงานที่กรุงเทพฯ และเพิ่งจะกลับบ้านเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะมาก่อเหตุวันที่ 29 เมษายน หลานยังไม่ทันได้เข้าบ้าน เพราะได้ยินว่าไปพักอยู่บ้านญาติอีกหลัง ที่ผ่านมาพี่น้องคู่นี้รักกันมาก พี่จะปกป้องน้องตลอดและค่อนข้างเป็นคนใจร้อน ใครจะมารังแกน้องไม่ได้ คาดว่าที่หลานทำไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ พอตำรวจพาตัวมาที่บ้านเมื่อเช้านี้ก็ตกใจ เห็นใส่กุญแจมือมา ย่าก็สั่น ร้องไห้ ไม่คิดว่าหลานจะก่อเหตุขึ้น จากนี้ไปก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย
ล่าสุด ญาติของ ร.ต.อ.พิชิต ได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่บ้านเลขที่ 9 บ้านเก่าใหม่ หมู่ 13 ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยญาติพี่น้องได้ตั้งเต็นท์ 2 หลังที่บริเวณลานด้านหน้าและข้างบ้าน พร้อมประดับดอกไม้หน้าโลง ด้านบิดาของ ร.ต.อ.พิชิต ได้นำหมวก เสื้อกั๊กปักอักษร POLICE และชุดตำรวจ วางไว้บนโลงศพ โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาที่งานเพื่อเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย นางมณีรัตน์ โบราณประสิทธิ์ มารดาของ ร.ต.อ.พิชิตกล่าวว่า ลูกชายได้รับบรรจุเข้ารับราชการตำรวจเมื่อปี 2555 ประจำที่กรุงเทพฯ ต่อมาขอย้ายมาที่ สภ.ปอพาน ได้ประมาณปีกว่า ตอนที่รู้ข่าวมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโทรศัพท์มาหา บอกว่าลูกชายถูกยิงตาย รู้สึกตกใจมาก ทั้งสั่น ทั้งร้องไห้ หัวใจสลาย พอทราบข่าวก็รีบไปที่โรงพยาบาลนาเชือก ไปดูศพลูก ลูกไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีแฟน หรือกำลังคบกับใครอยู่ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าสาเหตุที่ลูกชายถูกยิง คือไปมีเรื่องทะเลาะวิวาท
“ปกติลูกชายจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด บอกแต่กับแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง ผมโตแล้ว ผมดูแลตัวเองได้ ลูกแม่เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร บ้านหลังนี้ลูกชายก็เป็นคนสร้างให้ ใช้เงิน 800,000 บาท ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของลูก เห็นสภาพลูกตายแม่ก็ทำใจไม่ได้ คิดถึงแต่ลูก ตายโดยที่ไม่สั่งเสีย อยากให้คนที่ทำลูกตายตกไปตามกัน ให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ต้องมาขอขมา อย่างไรก็ไม่อโหสิกรรมให้” นางมณีรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พ.ต.ต.วิษณุกร แก้วสีขาว สว.สภ.ปอพาน นำข้าราชการตำรวจ สภ.ปอพาน ร่วมงานสวดอภิธรรมศพ ส.ต.อ.พิชิต โบราณประสิทธิ์ ผบ.หมู่ (ผช.พงส.) สภ.ปอพาน พร้อมเป็นตัวแทนมอบพวงหรีดของ พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และคุณสิริรัช จิตอร่าม ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เพื่อแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อผู้วายชนม์

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Adbox